ทำไมต้องรีบทำประกันก่อน? ลูกป่วย

คุณแม่คุณพ่อมือใหม่หลายๆท่าน อาจจะไม่เคยมีประสบการณ์ในการมีลูก หรือแม้จะเคยมีลูกแล้วแต่ยังไม่เคยมีประสบการณ์ในการเข้าโรงพยาบาลเพื่อรักษาการเจ็บป่วย และคิดว่าลูกน้อยที่เกิดมาแข็งแรงดี ไม่น่าที่จะป่วยโดยง่าย หรือกลุ่มที่ไม่รู้ว่ามีประกันสุขภาพสำหรับเด็กมีด้วยเหรอ จากที่คุณแม่ได้มีประสบการณ์ดูแลหลานๆ ที่เป็นลูกค้ามามากมาย มีคุณพ่อคุณแม่ แชร์ประสบการณ์มา จึงมาเล่าสู่กันฟังนะคะ
จากสถิติพบว่าอัตราการเคลมในเรื่องของการป่วยในเด็ก ที่มีอายุตั้งแต่แรกเกิด ถึง 5 ขวบค่อนข้างสูงพุ่งไปถึงกว่า 60-200% แล้ว เป็นอัตราที่สูงมาก สังเกตุได้ว่าหลายบริษัทประกันฯ ได้ยกเลิกแผนประกันเด็กเล็กแรกเกิด0-5 ขวบ หรือ มีปรับแผนประกัน ในเบี้ยที่สูงปี๊ดกันเลยทีเดียว

แต่อย่างไรก็ตามการเจ็บป่วยในเด็กเล็กมีโอกาสค่อนข้างมากและคุณพ่อคุณแม่หลายๆท่านก็ไม่สามารถคาดเดาค่าใช้จ่ายในโรงพยาบาลแต่ละครั้งได้ หากมีการแอดมิดเกิดขึ้นควรต้องเตรียมเงินไว้เท่าไหร่จึงจะพอกับการเจ็บป่วยแต่ละครั้ง บางทีอาจจะลืมคิด และที่เข้าใจผิดอีกเรื่อง เราจะมารู้ตัวอีกทีเมื่อลูกเจ็บป่วยไปแล้วได้จ่ายเงินค่ารักษาไปหลักหมื่น จึงจะต้องรีบมองหาประกันทันที
แต่นั่นหมายถึงว่าสายไปเสร็จแล้ว
บริษัทประกันฯ หลายๆแห่ง ในกรณีที่เด็กน้อยมีประวัติจากการเจ็บป่วย เกณฑ์ในการพิจารณาค่อนข้างละเอียดกว่าเมื่อก่อน และอาจจะทำให้การรับประกันให้ครอบคลุมทุกการรักษา ทุกโรคจะค่อนข้างยากขึ้น และมีข้อเสนอใหม่ เช่น ยกเว้นโรคที่เป็นมาก่อนทำประกัน หรือต้องจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานปกติ แบบนี้คุณพ่อคุณแม่ จะมองว่าไม่คุ้มเม็ดเงินที่ต้องทำประกัน ก็เลยไม่ทำดีกว่า รับความเสี่ยงเองต่อไป แบบนี้เรียกว่า “เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย”

วันนี้ คุณแม่จะพามารู้ว่า มันจะดียังงัย “ทำไมต้องรีบทำประกันก่อน ลูกป่วย”

  1. เด็กแรกเกิดสามารถทำประกันได้เร็วสุดหลังจากคลอด คือ 1 เดือน 1 วัน (ตามกฎหมาย) หลังจากที่ทำการสมัครประกันให้ลูกแล้ว บริษัทฯ พิจารณาอนุมัติแล้วจะมีระยะเวลารอคอยคุ้มครองการเจ็บป่วยเมื่อเข้าโรงพยาบาลอีก 30 วัน เรียกว่า “ระยะเวลารอคอย” มีคำถามว่าหากเจ็บป่วยในระยะเวลารอคอยเคลมได้หรือไม่ คำตอบคือเคลมไม่ได้ แม้จะทำประกันทันก็ตามแต่ก็ไม่สามารถควบคุมการเจ็บป่วยให้ได้รับสิทธิ์ตามเงื่อนไขบริษัทฯ ฉะนั้น “ทำประกันเร็ว 1 ปีดีกว่าช้าไป 1 วัน” ประโยคนี้ใช่เลย…จริงมั๊ยคะ
  2. หากน้องแข็งแรงยังไม่เคยเจ็บป่วยถึงขั้นแอดมิดหรือแม้กระทั่งปรึกษาหมอแบบผู้ป่วยนอก จะทำให้การพิจารณารับประกันง่ายขึ้นและครอบคลุมคุมครองทุกโรค แบบนี้สิ ค่อยจะคุ้มเม็ดเงินที่ต้องเสียไป เพราะใครๆ ก็ต้องการให้คุ้มครองทุกโรค ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเจ็บป่วยและอุบัติเหตุ หากต้องแอดมิดและเข้ารักษาตัวโรงพยาบาล
  3. มีคำถามว่า กรณีเกิดตัดสินใจล่าช้า เพราะมัวแต่ยุ่งเรื่องอื่น หรือลังเลสงสัย ผลัดไว้ก่อน จนเจ้าตัวเล็กมีประวัติเคยปรึกษาหาหมอหรือแอดมิดมาก่อนทำประกันภายใน 1 ปี มีโอกาสจะถูกยกเว้นความคุ้มครองในโรคที่เป็นมาก่อน หรืออาจจะถูกเพิ่มเบี้ยสุขภาพ ขั้นต่ำ 50% คงไม่มีคุณพ่อคุณแม่ท่านไหนอยากโดนตัดสิทธิ์แบบนี้ใช่ไหมคะ ฉะนั้นต้องรีบตัดสินใจให้เร็วค่ะ
    ในการเจ็บป่วย บางเคสอาจทำให้ทางบริษัทปฏิเสธการรับประกันไปเลยก็ได้ค่ะ นั่นหมายความว่าคุณพ่อคุณแม่ต้องรับความเสี่ยงทั้งหมดหากลูกไม่สบายต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ซึ่งต้องเตรียมเงินหลักหมื่นถึงหลักแสน คุณแม่ว่าคาดเดายากจริงๆ ค่ะ
  4. การเตรียมวางแผนมีหาประกันสุขภาพให้กับ เจ้าตัวเล็ก ตั้งแต่เนิ่นๆ เป็นการประหยัดงบสำหรับการเจ็บป่วยให้กับลูกอย่างมหาศาล เพราะหากคุณพ่อคุณแม่ที่ไม่มีประสบการณ์ในการเข้าโรงพยาบาล จะไม่ทราบเลยค่ะว่าค่าใช้จ่ายในการแอดมิดแต่ละครั้ง เป็นหลักหมื่นจนถึงหลักแสน ซึ่งอาจทำให้การเงินในบ้านกระทบกระเทือนถึงขั้นรุนแรง บางครอบครัวอาจจะต้องไปหยิบยืมเงิน เพื่อมารักษาลูกของเราให้รอดปลอดภัย รับรองค่ะว่าการเตรียมค่าเบี้ยประกันไม่แพงเท่าค่ารักษา การเคลมเพียงครั้งเดียวจ่ายสูงกว่าเบี้ยประกันทั้งปี แน่นอนที่สุด คุณแม่บอกเลยการเตรียมเบี้ยประกันง่าย และเตรียมเงินน้อยกว่า ค่ารักษาแน่นอนค่ะ
  5. การทำประกันสุขภาพให้ลูกน้อย เปรียบเหมือนเตรียมของขวัญที่มีค่าแทนความรักความห่วงใยให้กับลูก เพราะพ่อแม่ทุกคนอยากให้ลูกได้รับการรักษาและการดูแลที่ดีที่สุด เมื่อต้องเจ็บป่วย โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายอีกต่อไป “ประกันสุขภาพเด็ก” จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องมีใน List อันดับต้นๆ ที่เตรียมไว้สำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ ของขวัญชิ้นสำคัญที่ขาดไม่ได้ เชื่อคุณแม่นะคะ